28 กุมภาพันธ์ 2554
สรุปการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
27 กุมภาพันธ์ 2554
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 18 ( 28 กุมภาพันธ์ 2554 )
24 กุมภาพันธ์ 2554
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 17 ( 21-25 กุมภาพันธ์ 2554 )
16 กุมภาพันธ์ 2554
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 16 ( 14-17 กุมภาพันธ์ 2554 )
11 กุมภาพันธ์ 2554
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 15 ( 7-11 กุมภาพันธ์ 2554 )
- ตั้งหนี้ในแฟ้ม จำนวน 300 รายการ
- พิมพ์จดหมายแจ้งแกี่ยวกับเครดิตผิดพลาด จำนวน 1 ฉบับ โดยโปรแกรม Microsoft Word
- จัดทำ Flow ตามต้นฉบับของแผนกนิติการ โดยโปรแกรม Microsoft Word
- พิมพ์จดหมายภาษาอังกฤษ จำนวน 1 ฉบับ
- ตั้งหนี้ลูกค้าต่างประเทศ จำนวน 3 รายการ
- พิมพ์ซองน้ำตาล และนำเอกสารชุดต้นฉบับใส่ซองให้เรียบร้อย และเขียนใบไปรษณีย์แนบไปด้วย
- คีย์เอกสารผิดพลาดส่งบัญชี จำนวน 75 รายการ
- คีย์เอกสารผิดพลาดที่รับกลับมาจากบัญชี จำนวน 75 รายการ
- จัดหน้ากระดาษ Flow ของแผนกนิติการฯ และปริ้น จำนวน 15 แผ่น โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- แก้ไขที่อยู่ของบริษัทที่นำเอกสารไปวางบิลจากในประเทศ และส่งต่างประเทศ จำนวน 3 รายการ โดยพิมพ์ใบปะหน้าใหม่ และพิมพ์ซองน้ำตาลใหม่ และนำเอกสารใส่ลงซองให้เรียบร้อย
- โทรศัพท์ให้พนักงานบริษัท Pilot มารับเอกสารที่แผนก
- พิมพ์จดหมายแจ้งลูกหนี้ประเภทต่างๆ ดังนี้ ลูกหนี้บริษัทประกัน, ลูกหนี้บริษัท, ลูกหนี้ทั่วไป โดยโปรแกรม Microsoft Word จำนวน 1 ฉบับ
- ทำ Productivity เดือนมกราคม 2554 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- ทำ OT Ratio เดือนมกราคม 2554 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- ตัดหนี้บริษัททั่วไป จำนวน 37 รายการ
- ลงเงินรับเช็ค จำนวน 37 รายการ
- จัดทำ Workload ของแผนกนิติการ โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- นับ Invoice ที่วางบิลไปในวันที่ 3-9 กุมภาพันธ์ 2554 และนำตัวเลขไปใส่ในไฟล์ที่เตรียมไว้
- ค้นหาที่อยู่บริษัทที่จะนำเอกสารไปวางบิล ในระบบ SSB จำนวน 70 รายการ และปริ้นออกมาแนบกับชุดสำเนา
- เก็บเอกสารชุดสำเนาใส่ในแฟ้มของบริษัทนั้นๆ จำนวน 20 รายการ
- ดึง Aging 3 เดือนย้อนหลัง คือ พ.ย.53, ธ.ค.53, ม.ค.54 ออกมาแยกโค้ด CT, EM, IC, IN, OT, RL, RP, SP โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- ตรวจสอบสูตรไฟล์ Workload โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- เซฟไฟล์ PDF ที่โหลดมาจาก Intranet ของโรงพยาบาลส่งให้กับพี่ๆ
- พิมพ์ลูกหนี้ต่างประเทศที่ยังค้างค่ารักษาอยู่ ให้กับบริษัทที่จัดการการทวงหนี้ โดยโปรแกรม Microsoft Excel จำนวน 120 รายการ
- เขียนใบปะหน้าเครดิตผิดพลาด จำนวน 30 รายการ
- คีย์ข้อมูลเครดิตผิดพลาด จำนวน 30 รายการ ลงในโปรแกรม Microsoft Excel
ปัญหา
- ไฟล์ Workload ซ้ำกัน 3 ไฟล์ จึงทำให้สับสน
- Invoice บางรายได้ส่งไปให้บริษัทแล้ว จึงทำให้การนับไม่ครบถ้วน
แก้ไข
- ตรวจดูว่าข้อมูลตรงกัน และเลือกมา 1 ไฟล์ และลบไฟล์ที่เหลือทิ้งไป
- เข้าไปดูในแฟ้มตั้งหนี้อีกครั้งว่ายอดของ Invoice ตรงกันหรือไม่
3 กุมภาพันธ์ 2554
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 14 ( 31-4 กุมภาพันธ์ 2554 )
- ทำกราฟการรับชำระหนี้ เดือนมกราคม 2554 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- เขียนใบปะหน้าเครดิตผิดพลาด จำนวน 40 รายการ
- ถ่ายเอกสารคดีความ จำนวน 10 แผ่น
- ทำตารางรวม Invoice ทั้งหมด (IPD+OPD) และจำนวนเงินรวม โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- ถ่ายเอกสารเครดิตผิดพลาด โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ใบปะหน้า, ใบรับรองแพทย์/ใบเคลม, ใบแจ้งหนี้, ใบปฏิเสธการจ่าย จำนวน 300 แผ่น
- ส่งเอกสาร ณ แผนกบุคคล อาคาร 2 ชั้น 18 จำนวน 2 แฟ้ม
- ส่งเอกสารสำเนาใบเสร็จรับเงินที่คนไข้ขอมานำไปส่งที่อาคาร 2 ชั้น 22
- ตัดหนี้ในแฟ้ม จำนวน 25 รายการ
- ลงเงินรับเช็คในสมุดบัญชี 25 รายการ
- ดึง receipt วันที่ 31 มกราคม 2554 ในระบบ Oracle ออกมาแยกโค้ด CT, IC, IN, EM, OT, RL, RP, SP โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- คีย์เครดิตผิดพลาด จำนวน 40 รายการ โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- ดึง receipt วันที่ 27-2 กุมภาพันธ์ 2554 ในระบบ Oracle ออกมาแยกโค้ด CT, IC, IN, EM, OT, RL, RP, SP โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- คีย์เหตุผลของการค้างชำระค่ารักษาของผู้ป่วย OPD ปี 2553 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- พิมพ์ใบปะหน้าจดหมายภาอังกฤษ จำนวน 20 ฉบับ
- พิมพ์ซองจดหมาย และนำเอกสารต้นฉบับแนบกับใบปะหน้าใส่ซองให้เรียบร้อย จำนวน 20 ซอง
- เขียนที่อยู่บริษัทที่จะนำเอกสารไปวางบิล ลงในใบไปรษณีย์ จำนวน 20 รายการ แยกไปวางในประเทศ 18 รายการ และต่างประเทศ 2 รายการ
- คีย์เอกสารผิดพลาดส่งบัญชี จำนวน 10 รายการ
- คีย์เอกสารที่รับกลับมาจากบัญชี จำนวน 5 รายการ
- พิมพ์จดหมายทวงถามการชำระหนี้ของลูกหนี้คดีความ โดยโปรแกรม Microsoft Word
ประโยชน์ที่ได้รับ
- ได้เรียนรู้วิธีการเขียนใบไปรษณีย์ที่ส่งไปต่างประเทศ
- มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย
ปัญหา
- เขียนใบไปรษณีย์ผิด เขียนให้ไปวางในประเทศ แต่ที่ถูกต้องจะต้องวางต่างประเทศ
แก้ไข
- เขียนใบไปรษณีย์ของต่างประเทศ และโทรให้พนักงานบริษัท Pilot มารับเอกสาร
27 มกราคม 2554
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 13 ( 24-28 มกราคม 2554 )
- พิมพ์จดหมายภาษาอังกฤษส่งถึงบริษัทคู่สัญญา จำนวน 50 ฉบับ โดยแยกเป็น IPD 20 ฉบับ และ OPD 30 ฉบับ โดยโปรแกรม Microsoft Word
- เขียนใบปะหน้าเครดิตผิดพลาด จำนวน 30 รายการ
- เขียนใบปะหน้าสัญญาการชำระหนี้ค้างของผู้ป่วย จำนวน 2 ฉบับ
- พิมพ์สันแฟ้ม จำนวน 25 แฟ้ม
- คำนวณ KPI#1 และ KPI#2 6 เดือนแรก ปี 2553 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- พิมพ์จดหมายภาษาอังกฤษส่งถึงบริษัทคู่สัญญา จำนวน 1 ฉบับ
- พิมพ์ซองน้ำตาลและนำจดหมายที่พิมพ์ไว้ผนึกลงซองให้เรียบร้อย
- คีย์รับเอกสารผิดพลาดที่บัญชีส่งกลับมายังแผนก จำนวน 10 รายการ โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- ถ่ายเอกสารพาสปอร์ตผู้ป่วย, ใบการันตีของบริษัท จำนวน 150 แผ่น
- พิมพ์เลขที่กรมธรรม์ของผู้ป่วยบริษัท เฮลท์ เบนนิฟิท โดยโปรแกรม Microsoft Excel จำนวน 60 รายการ
- ปริ้นจดหมายปะหน้า จำนวน 50 ชุด แยกเป็น IPD 20 ชุด และ OPD 30 ชุด โดยโปรแกรม Microsoft Word
- แยกใบวางบิลชุดสำเนาออกมา และปั๊มวันที่ลงไปในชุดสำเนาทุกใบ จำนวน 120 รายการ
- ตั้งหนี้ลูกหนี้ต่างประเทศ จำนวน 45 รายการ
- แยก receipt วันที่ 20-26 มกราคม 2554 โดยแยกเป็นกลุ่ม CT, IC, IN, EM, OT, RL, RP, SP โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- คีย์ลูกหนี้บุคคล SP วันที่ 20-26 มกราคม 2554 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- แยกจดหมายส่งต่างประเทศชุดต้นฉบับใส่ซองน้ำตาล จำนวน 45 รายการ
- พิมพ์จดหมายเพิ่ม จำนวน 1 ฉบับ โดยโปรแกรม Microsoft Word
- ส่งเอกสาร ณ แผนกบุคคล อาคาร 2 ชั้น 18
- เขียนใบไปรษณีย์จ่าหน้าซองถึงบริษัทต่างๆ ที่จะนำเอกสารไปวางบิล จำนวน 45 ฉบับ
- เก็บเอกสารชุดสำเนาที่แผนกต้องเก็บไว้เป็นหลักฐานเข้าแฟ้มให้เรียบร้อย จำนวน 45 ชุด
- แยกบริษัทที่พี่แต่ละคนดูแล โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- แยกกลุ่ม receipt วันที่ 28 มกราคม 2554 โดยแยกเป็น CT, IC, IN, EM, OT, RL, RP, SP และคำนวณผลรวมตั้งแต่ 60 วันขั้นไปที่เก็บเงินค่ารักษาได้ โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- ปั๊มตราแผนกนิติการและติดตามหนี้ ลงในใบไปรษณีย์ จำนวน 1000 แผ่น
ปัญหา
- ใบการันตีของบริษัทแต่ละบริษัทไม่เหมือนกัน จึงทำให้สับสน
แก้ไข
- ต้องดูให้ละเอียดว่าเป็นใบการันตีของบริษัทหรือไม่
20 มกราคม 2554
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 12 ( 17-21 มกราคม 2554 )
- คีย์ Productivity เดือนธันวาคม 2553 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- คีย์ Productivity VS External Sat เดือนธันวาคม 2553 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- คีย์ Incident และ Incident Grade เดือนธันวาคม 2553 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- คีย์ OT Ratio และทำกราฟ เดือนธันวาคม 2553 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- คีย์ KPI#1 และ KPI#2 เดือนธันวาคม 2553 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- คีย์ DSO เดือนธันวาคม 2553 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- ถ่ายเอกสารข้อมูลผู้ป่วย จำนวน 70 แผ่น
- คีย์หา H/N ผู้ป่วยในระบบ SSB จำนวน 70 รายการ
- คีย์รับเอกสารผิดพลาดที่บัญชีส่งกลับมา จำนวน 100 รายการ
- คีย์ข้อมูลลูกหนี้คดีความ โดยดูข้อมูลจากแฟ้มคดีทั้งหมด 80 แฟ้ม พร้อมทั้งเก็บแฟ้มเรียงลำดับเลขที่คดีให้เรียบร้อย
- เขียนใบปะหน้าเครดิตผิดพลาด จำนวน 20 รายการ
- ทำใบปะหน้าและพิมพ์ซองขาวและซองน้ำตาล แล้วนำเอกสารวางบิลผนึกลงซอง จำนวน 30 รายการ
- คีย์เครดิตผิดพลาด จำนวน 20 รายการ ลงในโปรแกรม Microsoft Excel
- ทำกราฟแสดงเครดิตผิดพลาดที่เกิดขึ้น โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- คีย์ลูกหนี้ SP รายใหม่ โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- คีย์อัตราการวางบิล โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- คีย์ receipt เงินที่เก็บได้จากค่ารักษา โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- พิมพ์ชื่อที่อยู่ของบริษัทคู่สัญญา เพื่อออกจดหมายทวงถามการจ่ายชำระหนี้ โดยโปรแกรม Microsoft Word จำนวน 30 รายการ
- พิมพ์จดหมายร้องเรียนเรื่องค้างชำระ จำนวน 3 ฉบับ โดยโปรแกรม Microsoft Word
- ดึง receipt วันที่ 15-19 มกราคม 2554 ในระบบ Oracle
- แยกประเภท receipt ออกเป็นกลุ่ม ดังนี้ CT, IC, IN, EM, OT, RL, RP, SP โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- แก้ไขตาราง Productivity ทำเตรียมไว้เพื่อนำข้อมูลที่อัปเดตมาใส่ ในการทำรายงานส่งแต่ละเดือน ของปี 2554 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- ลงเงินรับเช็คในสมุดบัญชี จำนวน 30 รายการ
- คำนวณผลต่างและเปอร์เซ็นต์ของ allowan ปี 51-53 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
ปัญหา
- ดึง receipt ในระบบ Oracle ไม่เป็น
แก้ไข
- ให้พี่ช่วยสอนให้
13 มกราคม 2554
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 11 ( 10-14 มกราคม 2554 )
- ส่งเอกสาร ณ ฝ่ายบุคคล อาคาร 2 ชั้น 18 จำนวน 1 แฟ้ม
- จัดทำกราฟข้อมูลเครดิตผิดพลาด ปี 2553 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- จัดทำตารางรวม Productivity ทั้งปี 2553 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- จัดทำกราฟลูกหนี้บุคคล SP ทั้งปี 2553 โดยดูจากตาราง KPI#2 จัดทำโดยโปรแกรม Microsoft Excel
- จัดทำกราฟ receipt ทั้งปี 2553 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- เขียนใบปะหน้าเครดิตผิดพลาด จำนวน 40 รายการ
- คีย์ข้อมูลเครดิตผิดพลาด ลงในโปรแกรม Microsoft Excel จำนวน 40 รายการ
- จัดทำลูกหนี้บุคคล SP ของเดือนมกราคม โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- จัดทำ receipt ของเดือนมกราคม โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- จัดทำการตรวจสอบอัตราการวางบิล ปี 2554 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- ตรวจสอบใบวางบิล, ใบวินิจฉัยโรคฉบับสั้น, บัตรประชาชน, จำนวนเงินค่ารักษา จำนวน 1200 รายการ
- แก้ไขสูตร receipt โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- แก้ไขตัวเลขใบวางบิลรวมทั้งหมดระหว่าง IPD และ OPD ให้ถูกต้อง โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- ค้นหา Invoice ในระบบ Oracle ว่ามียอดเงินตรงกับโค้ดของบัญชีหรือไม่ จำนวน 30 รายการ
- เขียนจ่าหน้าซอง และผนึกใบวางบิลลงซองน้ำตาล จำนวน 20 ซอง
- ค้นหาที่อยู่ของบริษัท ที่จะนำเอกสารไปวางบิลในระบบ SSB จำนวน 400 รายการ
- นำเลขที่กรมธรรม์ใส่ให้ตรงกับชื่อผู้ป่วย จำนวน 70 รายการ โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- นำที่อยู่ของบริษัทแนบกับใบแจ้งหนี้ฉบับสำเนาของบริษัทเดียวกัน จำนวน 400 รายการ
- คีย์เอกสารผิดพลาดส่งบัญชี จำนวน 20 รายการ
- พิมพ์ซองจดหมายจ่าหน้าซองถึงบริษัทที่จะนำเอกสารไปวางบิล โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- นำเอกสารใส่ซองและประทับตราแผนก จำนวน 10 รายการ
ประโยชน์ที่ได้รับ
- ได้เรียนรู้วิธีค้นหา Invioce ในระบบ Oracle
- ได้เรียนรู้วิธีการค้นหาที่อยู่ของบริษัทที่จะนำเอกสารไปวางบิลในระบบ SSB
ปัญหา
- ค้นหา Invoice ในระบบ Oracle ไม่เป็น
- ค้นหาที่อยู่บริษัทในระบบ SSB ไม่เป็น
- เวลาปริ้น เครื่องไม่ดึงกระดาษอัตโนมัติ
แก้ไข
- ให้พี่ช่วยสอนให้
- ต้องไปกดปุ่ม start ที่เครื่องปริ้นทุกครั้งที่ปริ้นซอง
9 มกราคม 2554
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 10 ( 4-7 มกราคม 2554 )
- บันทึกการตัดหนี้ลงสมุดบัญชี จำนวน 25 รายการ
- แก้ไขไฟล์ประชุมฝ่ายส่งผู้บริหารรายเดือน โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- เช็คยอดเงินคงค้างในระบบ oracle ว่าตรงกันกับเอกสารหรือไม่ จำนวน 500 รายการ
- ช่วยพี่ดุรายการติดตามการจ่ายชำระหนี้ในแฟ้มคดีความ จำนวน 25 รายการ
- คีย์ลูกหนี้บุคคลทั่วไป ปี 53 โดยคีย์วันที่วางบิล และยอดเงินที่อัปเดตที่สุดลงไป โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- ตั้งหนี้ในแฟ้ม จำนวน 570 รายการ
- คีย์รายงานค่ารักษา ปี 53 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- ตรวจสอบยอดเงินค่ารักษาคงค้างในเอกสาร และระบบ SSB จำนวน 500 รายการ
- ลงเงินรับเช็คในสมุดบัญชี จำนวน 55 รายการ
- คีย์เอกสารผิดพลาดส่งแผนกบัญชี จำนวน 10 รายการ โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- รับเอกสาร ณ อาคาร 1 ชั้น 5 ห้องผู้ช่วย ผอ. จำนวน 1 แฟ้ม
- ปรับปรุงยอดค้างชำระค่ารักษาในระบบ SSB จำนวน 200 รายการ
ประโยชน์ที่ได้รับ
- ได้เรียนรู้วิธีการเช็คยอดเงินในระบบ Oracle
- ได้เรียนรู้การใช้งานระบบ SSB
ปัญหา
- เช็คยอดเงินคงค้างในระบบ Oracle ไม่เป็น
- ใช้งานระบบ SSB ไม่เป็น
แก้ไข
- ให้พี่ๆช่วยสอนให้
29 ธันวาคม 2553
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 9 ( 27-30 ธันวาคม 2553 )
- แยกใบวางบิลชุดสำเนาออกมา และปั๊มวันที่ลงในชุดสำเนาทั้งหมด จำนวน 450 รายการ
- เขียนใบปะหน้าเครดิตผิดพลาด จำนวน 80 รายการ
- คีย์เครดิตผิดพลาดลงในโปรแกรม Microsoft Excel
- ตัดหนี้ในแฟ้ม จำนวน 20 รายการ
- บันทึกรายการตัดหนี้ลงสมุดบัญชี จำนวน 20 รายการ
- ติดเทปปากกากับดินสอ และนำสติ๊กเกอร์ติดประดับ จำนวน 70 ชุด
- พิมพ์จดหมายร่างบันทึกข้อตกลงชำระค่ารักษา โดยโปรแกรม Microsoft Word
- พิมพ์จดหมายใบแจ้งหนี้ให้แก่บริษัท 2 บริษัท ทั้งหมด 400 รายการ โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- ปั๊มลายเซ็นต์ผู้จัดการแผนก ลงใบเสร็จ จำนวน 30 รายการ พร้อมเรียงรหัส
- คำนวณรายละเอียดการตัดหนี้สูญ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ CT, IN, SP, เครดิตผิดพลาด, ตรวจสอบ OPD และ ลูกหนี้คดี โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- ถ่ายเอกสารเครดิตผิดพลาด โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ใบแจ้งหนี้ผู้ป่วย, ใบรับรองแพทย์/ใบเคลม, ใบปฏิเสธการจ่ายค่ารักษา จำนวน 100 ชุด
ประโยชน์ที่ได้รับ
- มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย
- ทำงานอย่างมีระบบมากขึ้น
ปัญหา
- พิมพ์ตัวเลขจำนวนเงินผิด เมื่อรวมยอดเงินทั้งหมดออกมาไม่ตรงกับต้นฉบับ
แก้ไข
- ตรวจสอบตัวเลขใหม่ให้ถูกต้อง
23 ธันวาคม 2553
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 8 ( 20-24 ธันวาคม 2553 )
- แก้ไขการคำนวณ DSO ของเดือนพฤศจิกายน 2553 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- แก้ไขตาราง Productivity, ตารางเวลาการทำงาน, ตาราง External & Productivity, ตาราง Incident, ตาราง Incident Grade, ตาราง KPI#1 และ KPI#2 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- คำนวณตารางรายได้รวมสุทธิ VS AGING VS สำรองหนี้ โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- แก้ไขตารางค่าเฉลี่ยการชำระเงินตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2553 โดยแยกเป็นกลุ่มของ CT, IC, IN, RP, SP โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- จัดทำตัวอักษร ติดตามชั้นวางเอกสาร โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- จัดเรียงเอกสารใส่แฟ้มบริษัทให้ถูกต้อง จำนวน 50 แฟ้ม
- เขียนใบปะหน้าเครดิตผิดพลาด จำนวน 20 รายการ
- คีย์เครดิตผิดพลาดลงในโปรแกรม Microsoft Excel
- ตัดหนี้เงินโอนธนาคารกสิกรไทย ในแฟ้มเงินโอน จำนวน 25 รายการ
- จัดทำเบอร์โอนภายในแผนก ละเบอร์ติดต่อส่วนตัวของพี่ในแผนกทุกคน โดยโปรแกรม Microsoft Excel แล้วนำไปติดที่โต๊ะทำงานของพี่ๆให้เรียบร้อย
- แก้ไขตารางระยะเวลาเก็บหนี้ โดยแยกเป็น 8 กลุ่ม คือ CT, IC, IN, SP, RP, RL, EM, OT โดยโปรแกรม Microsoft Excel และสร้างกราฟเส้นแสดงด้วย
- ถ่ายเอกสารใบแจ้งหนี้ค่ารักษาฉบับสำเนา จำนวน 50 แผ่น
- แยกใบวางบิลชุดสำเนาออกมา และปั๊มวันที่ลงในชุดสำเนาทั้งหมด จำนวน 300 รายการ
- เขียนชื่อ-สกุลพนักงาน, รหัสพนักงาน, เลขเรื่อง ลงในใบเสร็จ จำนวน 40 รายการ
- นำเอกสารที่พนักงานส่งเอกสารรับกลับมาจากบริษัทที่ไปวางบิล ใส่แนบกลับใบปะหน้าให้เลขเรื่องตรงกัน จำนวน 100 รายการ
- ตัดหนี้ในแฟ้ม จำนวน 40 รายการ
- บันทึกการตัดหนี้ในสมุดบันทึก จำนวน 40 รายการ
ประโยชน์ที่ได้รับ
ปัญหา
- กระดาษติดในเครื่องถ่ายเอกสาร จึงทำให้เครื่องขัดข้อง
แก้ไข
- ให้พี่ช่วยสอนวิธีแก้ไขเมื่อกระดาษติด
17 ธันวาคม 2553
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 7 ( 13-17 ธันวาคม 2553 )
- คีย์ข้อมูลเงินค้างชำระของบุคคลทั่วไปตั้งแต่ปี 2544 - 2553 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- ถ่ายเอกสารใบส่งตัวผู้ป่วยของบริษัทต่างๆ จำนวน 550 ใบ
- ถ่ายเอกสารเกี่ยวกับคดีความ จำนวน 15 แผ่น
- เขียนจ่าหน้าซองใบไปรษณีย์ จำนวน 8 ฉบับ
- ตรวจสอบรายชื่อผู้ป่วย, บัตรประกัน, ใบรับรองแพทย์, ใบเสร็จรับเงิน, ใบค่ายา พร้อมทั้งปั๊มตราประทับโรงพยาบาลลงในใบวางบิล, ใบรับรองแพทย์ และใบเสร็จรับเงิน จำนวน 200 รายการ
- ถ่ายเอกสารข้อมูลการรักษาของผู้ป่วยนอกในวันที่ 5 ก.ย. 2553 จำนวน 2 แผ่น แล้วส่ง fax ไปให้บริษัทที่ขอข้อมูลมา
- ตรวจสอบชื่อผู้ป่วย, วันหมดอายุบัตรประกัน, ใบเคลมของบริษัท, ใบค่ายา, เงินคุ้มครอง OPD จำนวน 3300 รายการ
- ถ่ายเอกสารข้อมูลการรักษา จำนวน 50 แผ่น
- แยกประเภทการวางบิล เดือน พ.ย. 2553 โดยแยกดังนี้ กลุ่มของ CT, IC, IN, SP, RP, EM, OT, RL โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- แก้ไขตาราง KPI ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม - ธันวาคม 2553 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- ถ่ายเอกสารใบปะหน้าใบวางบิล จำนวน 15 แผ่น
- คำนวณการตัดหนี้สูญครั้งที่ 3 โดยมีรายการคำนวณ ดังนี้ CT, IN, SP, ตรวจสอบ OPD, เครดิตผิดพลาด, คดีความ โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- ตรวจสอบรายชื่อ, บัตรพนักงาน, ใบรับรองแพทย์, ใบค่ายา และปั๊มตราประทับโรงพยาบาลลงในใบวางบิลและใบรับรองแพทย์ จำนวน 1200 รายการ
- ตรวจสอบรายชื่อ, ใบรับรองการตรวจสุขภาพ, บัตรประชาชน จำนวน 500 รายการ
- ตั้งหนี้ในสมุดบัญชี จำนวน 300 รายการ
- นำเช็ค/เงินโอนเข้าบัญชีโรงพยาบาลในสมุดบันทึก จำนวน 30 รายการ
- ถ่ายเอกสาร OPD CARD ของคนไข้ จำนวน 6 ราย รวมทั้งหมด 10 แผ่น แล้วส่ง fax ไปให้กับบริษัท
- จัดหน้ากระดาษไฟล์ตัดหนี้สูญครั้งที่ 3 ปี 2553 โดยโปรแกรม Microsoft Excel
ประโยชน์ที่ได้รับ
- มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย
- ได้เรียนรู้การเรื่องการตรวจสอบเอกสารก่อนนำไปวางบิล
ปัญหา
- เครื่องถ่ายเอกสารขัดข้อง
- บัตรประกันบางรายเงินค่ารักษาเกินจากเงินคุ้มครอง
แก้ไข
- สอบถามวิธีแก้ไขจากพี่ๆ
- ตรวจสอบในใบรับรองแพทย์ ถ้าสาเหตุโรคเกิดจากอุบัติเหตุสามารถคุ้มครองได้
9 ธันวาคม 2553
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 6 ( 7-9 ธันวาคม 2553 )
- ตรวจสอบรายชื่อ, ปั๊มตราประทับโรงพยาบาลลงในใบวางบิล และใบวินิจฉัยโรค, ตรวจบัตรประชาชน/บัตรพนักงาน, ใบส่งตัวผู้ป่วย, ใบค่ายา จำนวน 2000 รายการ
- รับเอกสาร ณ ห้องผู้ช่วย ผอ. อาคาร 1 ชั้น 5 จำนวน 1 แฟ้ม
- เพิ่มสูตร SUM TOTAL ในไฟล์การไหล และคำนวณหา 95% ของ SUM TOTAL โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- คีย์เอกสารผิดพลาดส่งบัญชี จำนวน 4 รายการ
- ถ่ายเอกสารผู้ป่วยค้างชำระ ได้แก่ ใบปะหน้า, ใบแจ้งหนี้, ใบวินิจฉัยโรค และใบปฏิเสธของบริษัท จำนวน 300 ชุด
- ปั๊มตราประทับลงในเอกสารผู้ป่วยค้างชำระที่สำเนาไว้ จำนวน 150 ชุด
- แยกใบวางบิลชุดสำเนาออกมา และปั๊มวันที่ลงในชุดสำเนาทุกใบ จำนวน 300 รายการ
- ปั๊มตราประทับโรงพยาบาล ลงในใบวางบิล และใบวินิจฉัยโรค จำนวน 60 รายการ
- นำเอกสารใส่ซองน้ำตาล และเขียนจ่าหน้าซอง พร้อมทั้งปิดผนึกให้เรียบร้อย จำนวน 30 ซอง
- คีย์ข้อมูลเงินค้างชำระในคดีความ โดยโปรแกรม Microsoft Excel
ปัญหา
- ไม่ทราบว่าเอกสารผิดพลาดเป็นงานของใคร เพราะไม่ได้ระบุชื่อพี่ที่ดูแลกำกับไว้
- หมึกพิมพ์แห้ง เวลาปั๊มออกมาไม่ชัดเจน
แก้ไข
- สอบถามจากพี่ๆ แล้วค่อยคีย์ลงไป
- เติมหมึกพิมพ์ลงไปในตลับหมึก
2 ธันวาคม 2553
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 5 ( 29-3 ธันวาคม 2553 )
ปัญหา
25 พฤศจิกายน 2553
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 4 ( 22-26 พฤศจิกายน 2553 )
- เรียงใบเอกสารแจ้งหนี้ค่ารักษาคนไข้นอก จำนวน 100 รายการ
- รับเอกสาร ณ ห้องผู้ช่วย ผอ. อาคาร 1 ชั้น 5, แผนกบัญชี อาคาร 2 ชั้น 18
- เก็บแฟ้มเอกสารใส่ลิ้นชักโดยเรียงลำดับเลขด้วย จำนวน 20 แฟ้ม
- เขียนชื่อพนักงาน, รหัสพนักงาน และเลขที่วางบิลลงในใบเสร็จ พร้อมทั้งปั๊มตราประทับผู้จัดการแผนก จำนวน 15 รายการ
- ถ่ายเอกสารใบสรุปแจ้งหนี้ค่ารักษา จำนวน 10 ชุด
- ถ่ายเอกสารเกี่ยวกับคดีความ จำนวน 20 ชุด
- เรียนรู้การใช้โทรศัพท์สำนักงาน และการโอนสายภายใน
- คีย์รายชื่อผู้ป่วยนอกลงในใบวางบิล จำนวน 150 รายการ
- ตัดหนี้สูญลงเล่มบัญชี จำนวน 600 รายการ
- ซ่อมแฟ้มเอกสารเก่าปี 33-34 จำนวน 6 แฟ้มใหญ่
- ลงบันทึกบัญชีการตัดหนี้ จำนวน 15 รายการ
- จัดเรียงใบงานพนักงานรับเงินและวางบิล จำนวน 200 รายการ
- เขียนใบปะหน้าค่ารักษา จำนวน 20 รายการ
- ตั้งหนี้ในสมุดบัญชี จำนวน 80 รายการ
- ทำการแยกบริษัท และรวมยอดเงินของกลุ่มต่างๆ จำนวน 6 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ CT, IC, IN, RP, SP และ OT โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- แยกเอกสารใบวางบิลชุดสำเนาออกมา และปั๊มวันที่ลงในใบวางบิลทุกใบ จำนวน 80 รายการ
- คีย์รายละเอียดของบัญชีหนี้เครดิตผิดพลาดปี 2553 เกี่ยวกับการจ่ายเงินคงค้าง จำนวน 40 รายการ โดยโปรแกรม Microsoft Excel
ประโยชน์ที่ได้รับ
- ได้เรียนรู้การใช้โทรศัพท์ และการโอนสายภายในโรงพยาบาลพญาไท 2
- ได้เรียนรู้ถึงประเภทของใบเสร็จรับเงิน
ปัญหา
- ลำดับเลขที่พี่เขียนไว้ซ้ำกัน
- กระดาษที่เจาะรูไว้ขาดจึงใส่แฟ้มไม่ได้
- บัญชีหนี้บางรายการมีใบเสร็จต่างกัน จึงไม่เข้าใจ
- ชื่อบริษัทบางชื่อคล้ายกัน จึงทำให้แยกกลุ่มลำบาก
- ปั๊มวันที่ผิดลงในตัวต้นฉบับ
แก้ไข
- แก้ลำดับเลขใหม่
- นำสก็อตเทปติดซ่อมแซมให้เรียบร้อย
- ให้พี่ๆ อธิบายให้ฟัง
- สอบถามชื่อบริษัทจากพี่ๆ แล้วจึงแยกกลุ่ม
- ลบรอยปั๊มออก และนำตราประทับโรงพยาบาลปั๊มทับตรงรอยลบ
19 พฤศจิกายน 2553
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 3 ( 15-19 พฤศจิกายน 2553 )
- ตรวจสอบรายชื่อใบวางบิล และใบค่ายา จำนวน 450 รายการ
- ลงบันทึกรายการค้างชำระของผู้ป่วย ที่เป็นข้อยกเว้นบริษัทประกันไม่คุ้มครอง จำนวน 30 รายการ
- ส่งเอกสารที่แผนกบัญชี ณ อาคาร 2 ชั้น 18
- แยกใบวางบิลให้วันที่ตรงกับวันที่ของใบรายชื่อผู้ป่วย จำนวน 150 รายการ
- คีย์แบบเรียกเก็บค่าฟอกเลือดโครงการประกันสังคมไตเทียม โดยคีย์เลขที่ใบแจ้งหนี้, วันที่ฟอกเลือด และจำนวนเงิน พร้อมสั่งพิมพ์ จำนวน 100 รายการ
- นำเอกสารใส่ซองน้ำตาล พร้อมนำสติ๊กเกอร์ที่พิมพ์จ่าหน้าวองไว้ติดบนซองและใบไปรษณีย์พร้อมผนึกให้เรียบร้อย จำนวน 25 รายการ
- จัดเรียงใบแจ้งหนี้ให้ยอดเงินและเลขรหัสตรงกับใบสรุปแจ้งหนี้ จำนวน 20 รายการ
- คีย์เรื่องการไหลของการชำระเงิน โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- เดินส่งเอกสาร ณ ห้องธุรการ อาคาร 2 ชั้น 19 ห้องบัญชี อาคาร 2 ชั้น 18 ห้องบริหารการเงิน อาคาร 2 ช้น 16 และห้องผุ้ช่วย ผอ. อาคาร 1 ชั้น 5
- ทำกราฟแสดงการเปรียบเทียบระหว่าง Target และ Receipt โดยโปรแกรม Microsoft Excel
- ทำการตัดหนี้ในโปรแกรม Oracle และลงบันทึกในเล่มบัญชี พร้อมทั้งตัดหนี้ในเล่มบัญชีด้วย จำนวน 12 รายการ
- เรียนรู้การตรวจรายงานจากพี่ๆ เกี่ยวกับการกำหนดค่างวดให้กับผู้ป่วย
- เรียนรู้การออกใบเสร็จ จำนวน 10 รายการ
- พิมพืใบสรุปแจ้งหนี้ค่ารักษาคนไข้นอก จำนวน 2 รายการ
ประโยชน์ที่ได้รับ
- ได้เรียนรู้การเข้าระบบ Oracle
- ได้เรียนรู้เรื่องการออกใบเสร็จ
ปัญหา
- ใบวางบิลบางรายการ ไม่มีใบค่ายา
- ลืมเขียนเลขที่กำกับเอกสารในซอง จึงต้องแกะซอง
- ข้อมูล Target มีไม่ครบ
- ไม่เข้าใจระบบ Oracle
- ไม่เข้าใจการออกใบเสร็จ
แก้ไข
- แยกใบวางบิลไว้ต่างหาก
- ปั๊มตราประทับโรงพยาบาลตรงที่ปิดผนึก
- สอบถามจากพี่ๆ เกี่ยวกับข้อมูลที่ขาดหายไป
- ให้พี่ๆ อธิบายเกี่ยวกับการใช้งานระบบ Oracle
- ช่วยให้พี่ๆ อธิบายเรื่องการออกใบเส็จให้ฟัง
14 พฤศจิกายน 2553
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 2 ( 8-12 พฤศจิกายน 2553 )
7 พฤศจิกายน 2553
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 1 ( 1-5 พฤศจิกายน 2553 )
15 ตุลาคม 2552
ลูกแรดเตรียมพร้อมล่าเหยื่อ
1.สามารถปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่นได้
2.ได้รับความรู้เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแขนงบริหารในด้านอื่นๆ
3.ทำงานอย่างเป็นระบบมากขึ้น
4.รู้จักวางแผนการทำงาน
5.ได้ประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
6.มีความรอบคอบในการตรวจเช็คชิ้นงานมากขึ้น
7.มีความอดทนต่ออุปสรรคต่างๆ
8.มีวินัยในการทำงานมากขึ้น
9.ตรงต่อเวลา
10.มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงานที่ได้รับมอบหมาย
8 กันยายน 2552
DTS 11-08/09/2009
ความรู้ที่ได้รับจากเรื่อง Sorting
การเรียงลำดับ (sorting) เป็นการจัดให้เป็นระเบียบ มีแบบแผน ช่วยในการค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
สิ่งที่ควรคำนึงถึง
1. เวลาและแรงงานที่ต้องใช้ในการเขียนโปรแกรม
2. เวลาที่เครื่องคอมพิวเตอร์ต้องใช้ในการทำงานตามโปรแกรมที่เขียน
3. จำนวนเนื้อที่ในหน่วยความจำหลักมีเพียงพอหรือไม่
วิธีการเรียงลำดับ
1. การเรียงลำดับแบบภายใน (internal sorting) = เรียงลำดับที่ข้อมูลทั้งหมดต้องอยู่ในหน่วยความจำหลัก
2. การเรียงลำดับแบบภายนอก (external sorting) = เรียงลำดับข้อมูลที่เก็บอยู่ในหน่วยความจำสำรอง
การเรียงลำดับแบบเลือก (selection sort)
1. รอบแรก ทำการค้นหาข้อมูลตัวที่มีค่าน้อยที่สุดมาเก็บไว้ที่ตำแหน่งที่ 1
2. รอบที่สอง นำข้อมูลตัวที่มีค่าน้อยรองลงมาไปเก็บไว้ที่ตำแหน่งที่ 2
3. ทำไปเรื่อยๆจนครบทุกค่าและจะได้ข้อมูลที่เรียงลำดับจากน้อยไปมากตามที่ต้องการ
ข้อดี = ง่ายและตรงไปตรงมา
ข้อเสีย = ใช้เวลาในการจัดเรียงนาน
การเรียงลำดับแบบฟอง (Bubble Sort)
ใช้เปรียบเทียบข้อมูลในตำแหน่งที่อยู่ติดกัน จะเริ่มจากคู่แรกหรือคู่สุดท้ายก่อนก็ได้ วิธีนี้เป็นที่นิยมมากเพราะมีรูปแบบที่เข้าใจง่าย แต่ประสิทธิภาพค่อนข้างต่ำพอๆ กับการเรียงลำดับแบบเลือก
1. ถ้าข้อมูลทั้งสองไม่อยู่ในลำดับที่ถูกต้องให้สลับตำแหน่งที่อยู่กัน
2. ถ้าเป็นการเรียงลำดับจากน้อยไปมาก ให้นำข้อมูลตัวที่น้อยกว่าอยู่ในตำแหน่งก่อนข้อมูลที่มาก
แต่ถ้าเป็นการเรียงลำดับจากมากไปน้อยให้นำข้อมูล ตัวที่มากกว่าอยู่ในตำแหน่งก่อนข้อมูลที่น้อย
จำนวนครั้งของการเปรียบเทียบ มี 2 กรณี ดังนี้
1. กรณีที่ดีที่สุด (Best Case) = จะเปรียบเทียบในรอบแรกรอบเดียวเท่านั้น
2. กรณีที่แย่ที่สุด (Worst Case) = n(n-1)/2 ครั้ง
7 กันยายน 2552
DTS 10-01/09/2009
กราฟ (Graph) เป็นโครงสร้างข้อมูลแบบไม่ใช่เชิงเส้นรนำไปแก้ปัญหาที่ค่อนข้างซับซ้อน ประกอบด้วย
1. โหนด (Nodes) หรือ เวอร์เทกซ์
(Vertexes)
2. เส้นเชื่อมระหว่างโหนด เรียก เอ็จ (Edges)
กราฟมี 2 แบบ คือ
1. กราฟแบบมีทิศทาง หรือ ไดกราฟ (Digraph) = ต้องมีหัวลูกศรกำกับทิศทาง โดยมีโหนดเริ่มต้น และ โหนดสิ้นสุด
2. กราฟแบบไม่มีทิศทาง = ไม่มีหัวลูกศรกำกับทิศทาง
กราฟแตกต่างจากทรี ตรงที่กราฟวนเข้าหาตัวมันเองได้
การแทนกราฟในหน่วยความจำ
สิ่งที่จัดเก็บโดยทั่วไป คือ เอ็จ เพราะจะได้รู้ว่าไปที่ไหนได้บ้าง วิธีที่ง่ายที่สุด คือ การเก็บเอ็จในแถวลำดับ 2 มิติ แต่จะเปลืองเนื้อที่
สำหรับโหนด 1 มิติ ไม่เหมาะกับกราฟที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงควรใช้วิธีแอดจาเซนซีลิสต์(Adjacency List) ซึ่งคล้ายกับการจัดเก็บโหนดและพอยเตอร์ แต่ว่าต่างกันที่ ใช้ลิงค์ลิสแทนวิธีนี้จะทำได้ง่ายกว่า แต่เขียนโปรแกรมยากกว่า
31 สิงหาคม 2552
DTS 09-25/08/2552
Treeเป็นโครงสร้างข้อมูลที่ความสัมพันธ์ระหว่างโหนดจะมีความสัมพันธ์ลดหลั่นกันเป็นลำดับชั้น(Hierarchical Relationship) ส่วนมากจะใช้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล
ชื่อเรียกโหนดต่างๆ
1. โหนดแม่ (Parent or Mother Node) = โหนดที่มีความสัมพันธ์กับโหนดในระดับที่ต่ำลงมาหนึ่งระดับได้หลายๆโหนด
2. โหนดลูก (Child or Son Node) = โหนดที่อยู่ต่ำกว่าโหนดแม่หนึ่งระดับ
3. โหนดราก (Root Node) = โหนดที่อยู่ในระดับสูงสุดและไม่มีโหนดแม่
4. โหนดพี่น้อง (Siblings) = โหนดที่มีโหนดแม่เดียวกัน
5. โหนดใบ (Leave Node) = โหนดที่ไม่มีโหนดลูก
6. กิ่ง (Branch) = เส้นเชื่อม
นิยามของทรี
1. นิยามทรีด้วยนิยามของกราฟ
ทรี คือ กราฟที่ต่อเนื่องโดยไม่มีวงจรปิด (loop) โหนดสองโหนดใดๆ ในทรีจะติดต่อกันได้ทางเดียวเท่านั้นและทรีที่มี N โหนด จะต้องมีกิ่งทั้งหมด N-1 เส้น
การเขียนรูปแบบทรี เขียนได้ 4 แบบ คือ
- แบบที่มีรากอยู่ด้านบน
- แบบที่มีรากอยู่ด้านล่าง
- แบบที่มีรากอยู่ด้านซ้าย
- แบบที่มีรากอยู่ด้านขวา
2. นิยามทรีด้วยรูปแบบรีเคอร์ซีฟ
ทรีประกอบด้วยสมาชิกที่เรียกว่าโหนด ถ้าไม่มีโหนดใดๆ เรียกว่า นัลทรี (Null Tree) และถ้ามีโหนดหนึ่งเป็นโหนดราก ส่วนที่เหลือจะแบ่งเป็นทรีย่อย (Sub Tree)
นิยามที่เกี่ยวข้องกับทรี
1. ฟอร์เรสต์ (Forest) = กลุ่มของทรีที่เกิดจากการเอาโหนดรากออก
2. ทรีที่มีแบบแผน (Ordered Tree) = ทรีที่โหนดต่างๆ มีความสัมพันธ์แน่นอน เช่น ไปทางขวา
ไปทางซ้าย
3. ทรีคล้าย (Similar Tree) = ทรีที่มีโครงสร้างเหมือนกัน โดยไม่คำนึงถึงข้อมูลในแต่ละโหนด
4. ทรีเหมือน (Equivalent Tree) = ทรีที่เหมือนกันโดยสมบูรณ์ โดยต้องเป็นทรีที่คล้ายกันและแต่ละโหนดในตำแหน่งเดียวกันมีข้อมูลเหมือนกัน
5. กำลัง (Degree) = จำนวนทรีย่อยของโหนดนั้นๆ
6. ระดับของโหนด (Level of Node) = ระยะทางในแนวดิ่งของโหนด ที่อยู่ห่างจากโหนดราก เรียกว่า ความสูง (Height) หรือความลึก (Depth)
การแทนที่ทรีในหน่วยความจำหลัก
1. โหนดแต่ละโหนดเก็บพอยเตอร์ชี้ไปยังโหนดลูกทุกโหนด
ทรีที่แต่ละโหนดมีจำนวนโหนดลูกที่แตกต่างกันมาก จะเป็นการสิ้นเปลืองเนื้อที่ในหน่วยความจำโดยเปล่าประโยชน์
2. แทนทรีด้วยไบนารีทรี
วิธีนี้ช่วยแก้ปัญหา การสิ้นเปลืองเนื้อที่ในหน่วยความจำ โดยกำหนดให้แต่ละโหนดมีจำนวนลิงค์ฟิลด์ 2 ลิงค์ฟิลด์
- ลิงค์ฟิลด์แรก เก็บที่อยู่ของโหนดลูกคนโต
- ลิงค์ฟิลด์ที่สอง เก็บที่อยู่ของโหนดพี่น้องที่เป็นโหนดถัดไปโหนดใดไม่มีโหนดลูกหรือไม่มีโหนดพี่น้องให้ค่าพอยน์เตอร์ในลิงค์ฟิลด์มีค่าเป็น Null
การแปลงทรีทั่วไปให้เป็นไบนารีทรี
1. ให้โหนดแม่ชี้ไปยังโหนดลูกคนโต แล้วลบความสัมพันธ์ระหว่างโหนดแม่และโหนดลูกอื่นๆ
2. เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างโหนดพี่น้อง
3. จับให้ทรีย่อยทางขวาเอียงลงมา 45 องศา
การท่องไปในไบนารีทรี มี 6 วิธี คือ
- NLR
- LNR
- LRN
- NRL
- RNL
- RLN
เอ็กซ์เพรสชันทรี (Expression Tree)
คือ การนำเอาโครงสร้างทรีไปใช้เก็บนิพจน์ทางคณิตศาสตร์โดยเป็นไบนารีทรี โดยคำนวณตามความสำคัญของเครื่องหมาย ดังนี้
- ฟังก์ชัน
- วงเล็บ
- ยกกำลัง
- เครื่องหมายหน้าเลขจำนวน (unary)
- คูณ หรือ หาร
- บวก หรือ ลบ
- ถ้ามีเครื่องหมายที่ระดับเดียวกันให้ทำจากซ้ายไปขวา
24 สิงหาคม 2552
DTS 08-11/08/2009
9 สิงหาคม 2552
DTS 06-04/08/2009
ลักษณะที่สำคัญของสแตก คือ ข้อมูลที่ใส่หลังสุดจะถูกนำออกมาจากสแตกเป็นลำดับแรกสุด เรียกคุณสมบัตินี้ว่า LIFO (Last In First Out)
กระบวนการในการทำงานของสแตก ประกอบด้วย
1. Push คือ การนำข้อมูลใส่ลงไปในสแตก
2. Pop คือ การนำข้อมูลออกจากส่วนบนสุดของสแตก
ถ้าสแตกมีสมาชิกเพียง 1 ตัว แล้วถูก Pop ออก จะทำให้สแตกว่าง (Stack Empty) คือ ไม่มีสมาชิกอยู่ในสแตกเลยและถ้าเรา Pop แสตกนี้อีกครั้ง จะทำให้ เกิดความผิดพลาดที่เรียกว่า Stack Underflow
การแทนที่ข้อมูลของสแตก ทำได้ 2 วิธี คือ
1. การแทนที่ข้อมูลของสแตกแบบลิงค์ลิสต์ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
1) Head Node จะประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ top pointer และจำนวนสมาชิกในสแตก
2) Data Node จะประกอบไปด้วยข้อมูล (Data) และพอยเตอร์ ที่ชี้ไปยังข้อมูลตัวถัดไป
2. การแทนที่ข้อมูลของสแตกแบบอะเรย์
การดำเนินการเกี่ยวกับสแตก มีดังนี้
1. Create Stack = การสร้างสแตก
2. Push Stack = การเพิ่มข้อมูลลงไปในสแตก
3. Pop Stack = การนำข้อมูลบนสุดออกจากสแตก
4. Stack Top = การคัดลอกข้อมูลที่อยู่บนสุดของสแตก โดยไม่มีการลบข้อมูลออกจากสแตก
5. Empty Stack = การตรวจสอบการว่างของสแตก เพื่อป้องกัน Stack Underflow
6. Full Stack = การตรวจสอบว่าสแตกเต็มหรือไม่ เพื่อป้องกัน Stack Overflow
7. Stack Count = การนับจำนวนสมาชิกในสแตก
8. Destroy Stack = การลบข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในสแตก
การประยุกต์ใช้สแตก
นำไปใช้ในงานด้านปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์ที่ต้องการเก็บข่าวสารอันดับแรกสุดไว้ใช้หลังสุดเช่น โปรแกรมแปลภาษา การคำนวณนิพจน์ทางคณิตศาสตร์
และรีเคอร์ชั่น (Recursion)
การคำนวณนิพจน์ทางคณิตศาสตร์
1. นิพจน์ Infix นิพจน์รูปแบบนี้ ตัวดำเนินการ (operator) จะอยู่ตรงกลางระหว่างตัวถูกดำเนินการ 2 ตัว เช่น + - * / ( )
2. นิพจน์ Postfix นิพจน์รูปแบบนี้ จะต้องเขียนตัวถูกดำเนินการตัวที่ 1 และ 2 ก่อน แล้วตามด้วย operator
3. นิพจน์ Prefix นิพจน์รูปแบบนี้ จะต้องเขียนตัวดำเนินการก่อนแล้วตามด้วยตัวถูกดำเนินการตัวที่ 1 และ 2
ขั้นตอนการแปลงจากนิพจน์ Infix เป็นนิพจน์ Postfix
1. อ่านอักขระในนิพจน์ Infix เข้ามาทีละตัว
2. ถ้าเป็นตัวถูกดำเนินการ (operand) จะถูกย้ายไปเป็นตัวอักษรในนิพจน์ Postfix
3. ถ้าเป็นตัวดำเนินการ (operator) จะนำค่าที่อ่านเข้ามาเทียบกับค่าลำดับความสำคัญ operator ที่อยู่บนสุดของสแตก
- ถ้ามีความสำคัญมากกว่า จะถูก push ลงในสแตก
- ถ้ามีความสำคัญน้อยกว่าหรือเท่ากัน จะต้อง pop ตัวดำเนินการที่อยู่ในสแตกขณะนั้นไปเรียงต่อกับตัวอักษรในนิพจน์ Postfix
4. ตัวดำเนินการที่เป็นวงเล็บปิด “)” จะไม่ push ลงในสแตกแต่มีผลให้ตัวดำเนินการอื่น ๆ ถูก pop ออกจากสแตกนำไป เรียงต่อกันในนิพจน์ Postfix จนกว่าจะเจอ “(” จะ popวงเล็บเปิดออกจากสแตกแต่ไม่นำไปเรียงต่อ
5. เมื่อทำการอ่านตัวอักษรในนิพจน์ Infixหมดแล้ว ให้ทำการ Pop ตัวดำเนินการทุกตัวในสแตกนำมาเรียงต่อในนิพจน์Postfix
ขั้นตอนการแปลงจากนิพจน์ Postfix เป็นนิพจน์ Infix
1. อ่านตัวอักษรในนิพจน์ Postfix จากซ้ายไปขวาทีละตัวอักษร
2. ถ้าเป็นตัวถูกดำเนินการ ให้ทำการ push ลงในสแตก แล้วกลับไปอ่านอักษรตัวใหม่เข้ามา
3. ถ้าเป็นตัวดำเนินการ ให้ทำการ pop ค่าจากสแตก 2 ค่าโดย ตัวแรกเป็นตัวถูกดำเนินการตัวที่ 2 และตัวที่ 1 ตามลำดับ
4. ทำการคำนวณตัวถูกดำเนินการตัวที่ 1 ด้วยตัวถูกดำเนินการตัวที่ 2 โดยใช้ตัวดำเนินการในข้อ 3
5. ทำการ push ผลลัพธ์ที่ได้จากการคำนวณในข้อ 4 ลงสแตก
6. ถ้าตัวอักษรในนิพจน์ Postfix ยังอ่านไม่หมดให้กลับไปทำข้อ 1 ใหม่
3 สิงหาคม 2552
DTS 05-28/07/2009
การบ้าน iostream
cout <<\n\n"****NUMBER****\n\n";
20 กรกฎาคม 2552
DTS 04-14/07/2009
30 มิถุนายน 2552
DTS 03-30/06/2009
การกำหนดอะเรย์ จะต้องกำหนดชื่อของอะเรย์ และ Subscriptซึ่งเป็นตัวที่ใช้อ้างอิงถึงจำนวนสมาชิกของอะเรย์ และ Subscriptนี้ก็เป็นตัวบอกมิติของอะเรย์นั้นด้วยเช่นกัน อะเรย์จะประกอบด้วยสมาชิกที่มีค่าคงที่ และเป็นข้อมูลชนิดเดียวกันเท่านั้น ตัวอย่างของอะเรย์ เช่น int a[3]={1,3,5} จะเห็นได้ว่าภายในวงเล็บก็คือ Subscript นั่นเอง ส่วนเซ็ต{1,3,5}นี้สามารถแจกแจงค่าออกมาให้ดูง่ายขึ้น ดังนี้ a[0]=1 , a[1]=3 , a[2]=5
Structureสามารถมีส่วนประกอบของข้อมูลหลายๆตัวรวมกันได้ เช่นint,float,char,pointer แม้กระทั่ง Structure ด้วยกันเองก็ได้เช่นกัน ส่วนเรื่องของ Pointer เป็นตัวแปรที่ทำหน้าที่เก็บตำแหน่งที่อยู่(address) ของตัวแปรที่อยู่ในหน่วยความจำ ตัวอย่างการประกาศตัวแปร เช่น int *a , char *ptrเป็นเครื่องหมายที่ใช้ทำงานกับ Pointer มี 2 ตัว คือ & และ * เรียกว่า สตาร์ หรือ แอสเทอร์ริก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตัวแปรที่ตามหลัง *นี้เป็น Pointer เช่น *ptr คือตัวแปร Pointer ที่เก็บค่าตำแหน่งที่ ptr และดูว่าเก็บค่าอะไรอยู่ แล้วจึงนำค่านั้นมาใส่แทน ส่วน &เป็นเครื่องหมายที่ใช้เมื่อต้องการนำค่าของตัวแปรที่เก็บไว้ในหน่วยความจำออกมาใช้ เช่น ptr=&count; ก็คือการอำตำแหน่งที่ count มาเก็บไว้ที่ ptr
28 มิถุนายน 2552
DTS 02-23/06/2009
#include"string.h"
main()
{
struct patient
{
char name[15];
char sirname[30];
int id;
char gender[10];
int age;
char status[15];
float weight;
float height;
}case_history;
strcpy(case_history.name,"Piyanat");
strcpy(case_history.sirname,"Piyachockanagul");
case_history.id=12345;
strcpy(case_history.gender,"Female");
case_history.age=20;
strcpy(case_history.status,"single");
case_history.weight=45.00;
case_history.height=165.00;
printf("Name : %s\n",case_history.name);
printf("Sirname : %s\n",case_history.sirname);
printf("ID : %d\n",case_history.id);
printf("Gender : %s\n",case_history.gender);
printf("Age : %d\n",case_history.age);
printf("Status : %s\n",case_history.status);
printf("Weight : %.2f\n",case_history.weight);
printf("Height : %.2f\n",case_history.height);
}
ความรู้ที่ได้รับจากเรื่อง Introduction
โครงสร้าง คือ ความสัมพันธ์ของสมาชิกในกลุ่ม ส่วนข้อมูล คือ ข้อเท็จจริงต่างๆ อาจจะเป็นตัวเลข หรือไม่เป็นก็ได้ ดังนั้นเมื่อนำคำทั้งสองคำนี้มารวมกันจึงเกิดคำใหม่ คือ โครงสร้างข้อมูล ซึ่งมีความหมายว่าความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลที่อยู่ในโครงสร้าง สามารถจำแนกได้ 2ประเภท ได้แก่ โครงสร้างข้อมูลทางกายภาพ และโครงสร้างข้อมูลทางตรรกะ
โครงสร้างข้อมูลทางกายภาพ แบ่งออกได้ 2 ประเภท ได้แก่ ข้อมูลเบื้องต้น เช่น char,int และข้อมูลโครงสร้าง เช่น array,record,file โครงสร้างข้อมูลทางตรรกะ ก็สามารถแบ่งได้อีก 2 ส่วน ก็คือ โครงสร้างข้อมูลแบบเชิงเส้น และโครงสร้างข้อมูลแบบไม่เชิงเส้น ในการเลือกใช้โครงสร้างข้อมูลนั้นจะต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์ของข้อมูลชุดนั้นๆเป็นสำคัญ และต่อง่ายและสะดวกต่อการดำเนินงาน
อัลกอริทึ่ม เป็นการแก้ไขปัญหาอย่างมีระบบระเบียบขั้นตอน ในการเลือกใช้นั้นจะต้องมีความเหมาะสมและกระชับรัดกุม การแสดงขั้นตอนมักจะใช้ flowchartที่เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงขั้นตอนการทำงาน ควรใช้ภาษาธรรมชาติที่เข้าใจได้ง่าย ไม่ซับซ้อน
22 มิถุนายน 2552
DTS 01-16/06/2009
Miss. Piyanat Piyachockanagul
หลักสูตร การบริหารธุรกิจ(คอมพิวเตอร์ธุรกิจ)
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
E-mail : u50132792029@gmail.com